
เฉลยทำไม 2 พ่อลูก’ทักษิณ-แพทองธาร’เก็บตัว
วันที่ 20 สิงหาคม 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความระบุว่า “เฉลย:ทำไม 2 พ่อลูกเก็บตัว”
ใครที่ติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ 2 พ่อลูก คือนายทักษิณ ชินวัตรกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเห็นได้ว่าช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง 2 พ่อลูกเก็บตัวเงียบ ไม่มีท่าทีหรือการแสดงความคิดเห็นใดๆ ในประเด็นการเมืองและในประเด็นที่เกี่ยวกับคดีความ เนื่องจากศาลได้มีการนัดคดีต่างๆ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานคดีคลิปเสียงหลุดของนางสาวแพทองธาร ในวันที่ 21 สิงหาคม ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีมาตรา 112 ของนายทักษิณ ในวันที่ 22 สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดฟังคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงหลุดของนางสาวแพทองธารในวันที่ 29 สิงหาคม และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งศาลในวันที่ 9 กันยายน 2568
ทุกคดีมีผลต่ออนาคตทางการเมืองและบรรยากาศทางการเมือง รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีที่เกี่ยวข้องกับนางสาวแพทองธาร และพรรคเพื่อไทย จึงทำให้เห็นการเก็บตัวของนางสาวแพทองธาร หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามของนักข่าว หลบเลี่ยงที่จะพบกับสื่อมวลชนมาโดยตลอด นับตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม ที่ท้องสนามหลวง ช่วงวันที่ 13-15 สิงหาคม ที่สภาผู้แทนราษฎร รวมไปถึงการลาประชุมคณะรัฐมนตรี 2 สัปดาห์ติดต่อกัน การไม่เข้าประชุม สส.ของพรรคเพื่อไทยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สาเหตุสำคัญก็คือต้องการจะหลบสื่อมวลชน เพราะกลัวว่าการแสดงความเห็นใดๆ ที่เกี่ยวกับคดีความ ซึ่งอาจจะทำให้เป็นประเด็น หรือเป็นจุดอ่อน หรือพลาดพลั้งต่อการดำเนินคดีที่กำลังพิจารณาอยู่ ก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ ด้วยวุฒิภาวะและประสบการณ์ทางการเมืองของนางสาวแพทองธารมีไม่มากพอ รวมไปถึงความรู้ทั่วไปหรือความรู้ทางการเมืองน้อยนิด อาจจะเป็นประเด็นปัญหาที่ทำให้แก้ไขได้ยาก จึงใช้วิธีการปิดปากเงียบดีกว่า ไม่แสดงความเห็นใดๆ จึงเห็นบรรยากาศหรือภาพของการหลบนักข่าว เก็บตัวเงียบของนางสาวแพทองธารในตอนนี้
ส่วนกรณีของนายทักษิณก็เช่นเดียวกัน คงจะไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้ ซึ่งผิดปกติที่นายทักษิณมักชอบคุยโมโอ้อวด ชอบแสดงความคิดเห็น แต่คงรู้สถานการณ์ทางการเมืองดีว่า ตอนนี้ตกอยู่ในชะตากรรมเช่นไร จึงเก็บเนื้อเก็บตัวและปิดปากเงียบเช่นกัน แม้กระทั่งวันที่มาประชุมพรรคเพื่อไทยในวันอังคารที่ผ่านมา ก็หลีกเลี่ยงจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ซึ่งผิดวิสัยของนายทักษิณมาก แสดงว่าทั้ง 2 พ่อลูก กำลังเคร่งเครียดและกำลังลุ้นกับผลคดีที่ศาลจะมีคำตัดสินออกมาทั้ง 3 คดี จึงทำให้เกิดอาการวิตกกังวล ถ้าดูอาการของ 2 พ่อลูกแล้ว น่าจะวิเคราะห์ได้ว่า ผลการตัดสินของศาลใน 3 คดีนี้จะออกมาเช่นไร
ถ้าจะให้วิเคราะห์เชื่อว่า น่าจะรอด 1 คดี ไม่รอด 2 คดี ความหมายคือผลที่ออกมา 2:1 ต้องรอลุ้นกันว่า จะเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดหมายหรือไม่